ในปัจจุบันกฎหมายมีความสำคัญกับชีวิตมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งตาย และกฎหมายในเรื่องมรดกนี่ก็นับว่าเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่เราจะทำความเข้าใจ เพราะว่าถ้าไม่มีกฎหมายมรดกแล้ว ก็จะทำให้สังคมวุ่นวาย เช่น อาจมีการฆ่ากันตาย เพราะแย่งทรัพย์สมบัติของผู้ตายเกิดขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็ได้ ต่างคนก็ต่างอยากได้ทรัพย์สมบัติมาเป็นของตัวเองมาก ๆ โดยไม่คำนึงถึงว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร ดังนั้นกฎหมายจึงต้องเข้ามาวางหลักในเรื่องมรดกของผู้ตาย ว่าภายหลังจากผู้ตาย ตายแล้วทรัพย์สมบัติของเขาตกแก่ผู้ใด เพื่อมิให้เกิดการแย่งชิงกันระหว่างญาติของผู้ตายด้วยกันเอง
ความหมายของมรดก
“มรดก” หรือ “กองมรดก” ของผู้ตายนั้น ได้แก่ ทรัพย์สินของผู้ตายที่มีอยู่ในขณะตาย แต่ไม่ใช่ว่ามรดกของผู้ตายมีเพียงทรัพย์สินของผู้ตายเท่านั้น มรดกของผู้ตายยังรวมถึงสิทธิ์ หน้าที่และความรับผิดชอบต่าง ๆ ของผู้ตาย[1]
อย่างไรก็ตามทรัพย์สินที่เป็นมรดกนั้นยังไม่สามารถนำมาแบ่งกันได้จนกว่าจะจัดการ 3 ประการนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อนคือ
· ค่าใช้จ่ายในการจัดการทำศพของผู้ตาย
· ใช้หนี้สินของผู้ตาย
· ปฏิบัติตามพินัยกรรมที่ผู้ตายสั่งไว้ แต่ต้องไม่เกิน 1 ใน 3 ของทรัพย์สินที่เป็นมรดก ทั้งนี้หากมีการทำพินัยกรรมเกินกว่า 1 ใน 3 ต้องเป็นการยินยอมของทายาทที่มีสิทธิ์เที่มีสิทธิ์ในกองมรดกนั้นด้วย
เมื่อเสร็จสิ้นทั้ง 3 ประการนี้แล้วก็ให้เอาทรัพย์สินที่เหลือมาแบ่งตามสัดส่วนที่ผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดกนั้น ๆ
องค์ประกอบของการแบ่งมรดกตามกฎหมายอิสลาม
องค์ประกอบของการแบ่งมรดกตามกฎหมายอิสลามจะประกอบด้วย เจ้ามรดก (ผู้ตาย) ทายาท (ผู้มีสิทธิ์รับมรดก) และทรัพย์สินของผู้ตาย โดยมีเงื่อนไขของการรับมรดก คือ
· มีความมั่นใจว่าเจ้ามรดกได้เสียชีวิตแล้ว แต่มีข้อสังเกตว่าการตายของบุคคลนั้น ในทางกฎหมายจะมีได้ 2 อย่าง คือ ตายโดยธรรมชาติ และตายโดยผลของกฎหมายหรือที่เรียกว่าสาบสูญ ดังนั้นหากเป็นการไม่แน่ใจว่าเจ้ามรดกนั้นได้เสียชีวิตแล้วหรือไม่ ก็ให้ถือคำสั่งของตุลาการ หรือ ดาโตะยุติธธรมเป็นข้อชี้ขาด
· ทายาทมีชีวิตหลังจากเจ้ามรดกเสียชีวิต
· ไม่มีข้อห้ามในการสืบมรดกเช่นเจ้ามรดกกับผู้รับมรดกต่างศาสนากัน
เมื่อครบองค์ประกอบและเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ก็สามารถที่จะดำเนินการแบ่งมรดกได้
ส่วนการรับมรดกแบบทายาทอิสลามได้ให้ความสำคัญและให้ความเป็นธรรมกับทุก ๆ คนตั้งแต่ลูก ๆ โดยไม่ให้ความแตกต่างระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็มีส่วนได้รับมรดกทั้งสิ้นส่วนทางด้านสามีภรรยาก็มีส่วนได้รับมรดกอันเนื่องมาจากการแต่งงานกันและนายทาสที่ปล่อยทาสให้เป็นอิสระเมื่อทาสตายลงนายทาสก็มีสิทธิ์ได้รับมรดกจากทาสของตนที่ได้ปล่อยไป
อิสลามได้กำหนดการแบ่งส่วนที่ชัดเจนของแต่ละบุคคลที่มีส่วนได้รับสิทธิ์ในกองมรดกนั้น ๆ ดังนั้นการแบ่งมรดกตามแบบอิสลามจึงมีความสำคัญที่ชาวมุสลิมต้องหันมาศึกษาและเอาใจใส่ อิสลามได้วางระบบในเรื่องมรดกไว้อย่างละเอียดซึ่งสอดคล้องกับธรรมชาติที่อัลลอฮ์ได้สร้างมนุษย์มาและพระองค์ได้ใช้ให้มนุษย์ขวนขวายแสวงหาทำมาหากินประกอบอาชีพและเก็บสะสมสิ่งที่แสวงหามาได้ซึ่งต่างจากสัตว์เดรัจฉานทั่วไปแท้จริงชีวิตไม่ได้สิ้นสุดด้วยกับความตายหากแต่ว่ายังคงเชื่อมต่อกับครอบครัวลูกหลานและทายาท