โครงสร้างรายสัปดาห์
-
-
-
-
1. นายพรชัยและบิดามารดา ได้มาทำการสู่ขอนางสาวดาราเพื่อทำการสมรส และตกลงกันว่าให้ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายจัดเตรียมงานสมรสในพิธีการต่างๆ รวมทั้งการจัดงานเลี้ยง ส่วนฝ่ายชายจะจัดเตรียมเรือนหอเพื่ออยู่กินฉันสามีภรรยากัน เมื่อถึงวันทำพิธีสมรส ปรากฏว่านายพรชัยไม่ได้มาทำการสมรสตามที่ตกลงกัน นางสาวดาราเสียค่าใช้จ่ายในการเตรียมการสมรส การจัดงานเลี้ยง ชุดวิวาห์ และอื่นๆอีก จึงฟ้องเรียกค่าทดแทนต่อชื่อเสียงและการเตรียมการสมรสด้วย เช่นนี้ จะทำได้หรือไม่ เพราะเหตุใด จงอธิบาย
-
2. นายมนูญทำสัญญาหมั้น น.ส.สุดาด้วยแหวนเพชร 1 วง ต่อมานายมนูญทราบว่า น.ส.สุดาได้เคยอยู่กินกับนายกมลและตั้งครรภ์ แต่ น.ส.สุดาได้ทำแท้งเด็กในครรภ์แล้ว นายมนูญเห็นว่า น.ส.สุดาประพฤติตนไม่เหมาะสมอย่างมาก จึงไม่ต้องการสมรสด้วย และต้องการฟ้องเรียกแหวนหมั้นคืน ต้องการฟ้องเรียกค่าทดแทนจาก น.ส.สุดา และนายกมล เช่นนี้ จะสามารถทำได้หรือไม่ เพราะเหตุใด จงอธิบาย
-
การผิดสัญญาหมั้น ค่าทดแทนในกรณีผิดสัญญาหมั้น
-
-
-
3. นายสมบุญกับนางเมตตาเป็นสามีภรรยากัน ต่อมานายสมบุญเป็นคนเจ้าชู้ได้จดทะเบียนสมรสกับ น.ส.อรสาอีก นางเมตตาโกรธจึงจดทะเบียนหย่ากับนายสมบุญ ต่อมานายสมบุญได้รู้จักกับนางรัตนาซึ่งสามีประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตได้ 85 วันแล้ว และนายสมบุญพอใจนางรัตนามากจึงจดทะเบียนสมรสด้วย น.ส.อรสาเห็นว่าตนเป็นภริยาของนายสมบุญจึงจะฟ้องการสมรสของนายสมบุญกับนางรัตนา จากข้อเท็จจริงดังกล่าวท่านเห็นว่าอย่างไร เพราะเหตุใด จงอธิบาย
-
-
นายชลและนางนุ้ยเป็นสามีภรรยากันตามกฏหมาย วันหนึ่งนายโชคซึ่งเป็นน้องชายของนายชล มาขอยืมเงินนายชลจำนวน 30,000 บาท เพื่อไปลงทุนค้าขาย นายชลเห็นว่านายโชคมีความจำเป็นในการใช้เงิน นายชลจึงนำเงินเดือนของตนเองที่ได้มาระหว่างสมรสไปให้นายโชคกู้ยืมตามลำพังโดยไม่คิดดอกเบี้ย โดยที่นายชลไม่ได้บอกนางนุ้ยแต่อย่างใด เพราะเห็นว่านางนุ้ยและนายโชคมีเรื่องโกรธเคืองกันอยู่ ต่อมานายชลขายที่ดินที่เป็นสินสมรสที่มีชื่อนายชลในโฉนดที่ดินแต่เพียงผู้เดียวให้แก่นายเลิศในราคา 500,000 บาท โดยนางนุ้ยไม่ได้รู้เห็นและให้ความยินยอมในการขายที่ดินนั้น ดังนี้ให้ท่าวินิจฉัยว่า นางนุ้ยจะฟ้องศาลขอเพิกถอนนิติกรรมให้กู้ยืมเงินแก่นายโชค และการขายที่ดินให้แก่นายเลิศได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
-
นายหนุ่มจดทะเบียนสมรสกับนางแก้ว หลังจากสมรสนายหนุ่มและนางแก้วได้ทำสัญญาระหว่างสมรสให้นายหนุ่มเป็นผู้มีอำนาจในการจัดการสินสมรสทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว หลังจากนั้นนายหนุ่มเอาเงิน 20,000 บาทที่เป็นสินสมรสไปให้นายคงซึ่งเป็นเพื่อนของนายหนุ่มไปใช้หนี้ที่นายคงยืมจากคนอื่น โดยที่นางแก้วไม่ได้ให้ความยินยอมในการให้เงินนั้น ต่อมานายหนุ่มได้นำรถยนต์ที่เป็นสินสมรสไปให้นายทองเช่าเพื่อทำเป็นรถรับจ้างโดยมีสัญญาเช่า 7ปี โดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากนางแก้วเช่นกัน ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยว่านางแก้วจะฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการให้เงินและการให้เช่ารถยนต์ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
-
-
-
นายเอกและนางใจทำสัญญาก่อนสมรสให้นายเอกมีอำนาจในการจัดการสินสมรสแต่เพียงผู้เดียว หลังจากสมรสนางใจเปิดร้านตัดเสื้อ นางใจได้นำเงินเดือนของนายเอกที่ได้มาระหว่างสมรสจำนวน 50,000 บาท ไปซื้อจักรเย็บผ้าเพื่อมาใช้ในร้าน ต่อมานางใจต้องการเปลี่ยนอาชีพไปขายอาหาร นางใจจึงขายจักรเย็บผ้าให้กับนางสวยในราคา 40,000 บาท นางใจได้นำเงินดังกล่าวไปให้นายชอบยืมโดยที่นายเอกไม่ได้รู้เห็นในการให้ยืมเงินนั้น ต่อมานางใจไปไปทำสัญญาเช่าที่ดินแปลงหนึ่งเป็นเวลา 5 ปี เพื่อที่จะมาเปิดร้านอาหารโดยที่นายเอกไม่ได้รู้เห็นและให้ความยินยอม ภายหลังนายเอกทราบเรื่องทั้งหมด นายเอกอ้างว่านางใจไม่มีอำนาจนำเงินไปให้นายชอบยืมและไปเช่าที่ดินตามลำพังได้ เพราะนายเอกมีอำนาจในการจัดการสินสมรสแต่เพียงผู้เดียวตามสัญญาก่อนสมรส ดังนี้ นายเอกจะฟ้องศาลขอเพิกถอนนิติกรรมการให้ยืมเงินและการเช่าที่ดินได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
-
นายกรและนางนวลเป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย หลังจากสมรสนายกรและนางนวลทำสัญญาระหว่างสมรสให้นายกรมีอำนาจในการจัดการสินสมรสแต่เพียงผู้เดียว ต่อมานายกรนำเงินโบนัสที่ได้ประจำปีซื้อที่ดินแปลงหนึ่งโดยใส่ชื่อนายกรในโฉนดที่ดินแต่เพียงผู้เดียว หลังจากนั้นนายกรทำหนังสือและจดทะเบียนสิทธิอาศัยให้นายโชคญาติของนายกรมีสิทธิอาศัยในที่ดินดังกล่าวเป็นเวลา 3 ปี โดยนางนวลไม่ได้รู้เห็นและให้ความยินยอมแต่อย่างใด ต่อมานายกรทำสัญญาให้นายชินเพื่อนของนายกรเช่ารถยนต์ซึ่งเป็นสินสมรสเพื่อทำเป็นแท็กซี่เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยนายชินก็ทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นสินสมรสของนายกรและนางนวล แต่นางนวลไม่ได้รู้เห็นและให้ความยินยอมในการเช่ารถยนต์นั้น นางนวลมาทราบเรื่องราวต่างๆภายหลัง นางนวลโกรธมาก นางนวลจึงอยากฟ้องศาลขอเพิกถอนนิติกรรมการจดทะเบียนสิทธิอาศัยในที่ดินแก่นายโชค และการให้เช่ารถยนต์กับนายชิน ดังนี้ นางนวลจะสามารถทำได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
-
-
นายไก่และนางไข่เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย ต่อมานายไก่ไปมีเพศสัมพันธ์กับนางแอนมีบุตรด้วยกันคือเด็กชายที เมื่อนางไข่ทราบก็ไม่ว่าอะไรและพร้อมจะรับเด็กและนางแอนมาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ต่อมานางแอนเหยียดหยามนางไข่อย่างรุนแรง บางครั้งลามปามไปถึงบรรพบุรุษของนางไข่
(1) นางไข่จะฟ้องหย่านายไก่ได้หรือไม่จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น
(2) เด็กชายทีเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของใครนับแต่เมื่อนั้น
-
นายไก่และนางไข่อยู่กินร่วมกันฉันสามีภริยาจนมีบุตรด้วยกันคือ ด.ช.หนึ่ง จึงไปจดทะเบียนสมรสกัน หลังจากนั้นไม่นาน นางไข่ก็ไปอยู่กินร่วมกันฉันสามีภริยากับนายห่านแฟนเก่าและคลอดบุตรอีกหนึ่งคนคือ เด็กหญิงสอง ซึ่งการกระทำของนางไข่ทำให้นายไก่เสียใจมาก จึงไปตัดอวัยวะเพศทิ้งแปลงเพศเป็นหญิง
1) หนึ่งและสองเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของใคร นับแต่เมื่อใด
2) นายไก่จะฟ้องหย่านางไข่ และนางไข่จะฟ้องหย่านายไก่ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด