ในทางประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น หลักเกณฑ์ในการแบ่งมรดกนั้น จะต้องพิจารณาจากทายาทลำดับแรกเสียก่อน หากไม่มีทายาทลำดับแรกก็จะพิจารณาทายาทลำดับรอง ซึ่งหากมีทายาทลำดับแรกแล้ว ก็จะตัดสิทธิ์ทายาทลำดับต่างๆ ซึ่งในทางกฎหมายอิสลามก็เช่นกันในการแบ่งมรดกนั้น จะพิจารณาทายาทที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับอยู่ก่อน และจะกันสิทธิ์ทายาทในลำดับอื่นๆ โดยจะเรียกว่าบุคคลนั้นถูกกันสิทธิ์
ความหมายการกันสิทธิ์
การกันสิทธิ์หมายถึง การกันสิทธิ์บุคคลหนึ่งออกจากกองมรดกไม่ว่าจะเป็นการกันสิทธิ์ทั้งหมดหรือเป็นการกันสิทธิ์เพียงบางส่วนสาเหตุเพราะมีคนหนึ่งกันสิทธิ์ไว้หรือได้รับสิทธิ์ก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว
การกันสิทธิ์นั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1. การกันสิทธิ์ทั้งหมด
ตัวอย่าง เมื่อผู้ตายทิ้งภรรยารยา 1 คน ลูกชาย 1 คนและหลานชาย (ลูกชายของลูกชาย) 1 คน พี่ชายร่วมบิดามารดาเดียวกัน 1 คนและน้องสาวร่วมบิดาเดียวกัน 1 คน หลานชายไม่ได้รับมรดกเพราะถูกลูกชายกันสิทธิ์ พี่ชายร่วมบิดามารดาเดียวกันน้องสาวร่วมบิดาเดียวกันไม่ได้ เนื่องจากถูกลูกชายกันสิทธิ์เช่นเดียวกัน
2. การกันสิทธิ์บางส่วน
ตัวอย่าง เมื่อผู้ตายทิ้งสามี ลูกชาย 1 คน และ ลูกสาว 3 คน ผู้มีสิทธิ์รับมรดก สามี จะถูกกันสิทธิ์จาก เหลือดพียง เนื่องจากผู้ตายมีลูก 4 คน และลูกจะได้รับมรดกส่วนที่เหลือ (อะซอบะฮฺ) และแบ่งกัน คือ ลูกชาย (ได้ 2 ส่วน) ลูกสาว (ได้ 1 ส่วน) ลูกสาว (ได้ 1 ส่วน) ลูกสาว (ได้ 1 ส่วน)
ผู้ที่ไม่ถูกกันสิทธิ์ในกองมรดกมี 6 คน ได้แก่
1. สามี
2. ภรรยา
3. พ่อ
4. แม่
5. ลูกสาว
6. ลูกชาย
ผู้ที่ถูกกันสิทธิ์
ผู้ที่ถูกกันสิทธิ์ในกองมรดก มีดังต่อไปนี้
1.หลานชาย ถูกกันสิทธิ์โดยลูกชายของเจ้ามรดก
2.หลานสาว ถูกกันสิทธิ์โดยลูกชายหรือลูกสาวของ เจ้ามรดก 2 คนขึ้นไป
3.ปู่ (บิดาของบิดา) ถูกกันสิทธิ์โดยบิดาของเจ้ามรดก
4.ย่า (มารดาของบิดา) ถูกกันสิทธิ์โดยมารดาของ เจ้ามรดกและบิดาของเจ้ามรดก
5.ยาย (มารดาของมารดา) ถูกกันสิทธิ์โดยมารดาของ เจ้ามรดก
6.พี่น้องชายร่วมบิดามารดา ถูกกันสิทธิ์โดยลูกชาย บิดา หลานชายของเจ้ามรดกพี่น้องชายร่วมแต่บิดา ถูกกันสิทธิ์โดยลูกชาย บิดา หลานพี่น้องชายร่วมแต่มารดา ถูกกันสิทธิ์โดยบิดา ปู่ ลูกชาย หลานชายอันเกิดจากลูกชาย ลูกสาวหลานสาวอันเกิดลูกชายของเจ้ามรดก
7.พี่น้องหญิงร่วมบิดามารดา ถูกกันสิทธิ์โดยลูกชาย บิดา หลานชายของเจ้ามรดก
8.พี่น้องหญิงร่วมแต่บิดา ถูกกันสิทธิ์โดยลูกชาย บิดา หลานชาย พี่น้องชายร่วม บิดามารดา พี่น้องสาวร่วมบิดามารดาตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
9.พี่น้องสาวร่วมแต่มารดา ถูกกันสิทธิ์โดยบิดา ปู่ ลูกชาย หลานชายอันเกิดจาก ลูกชาย ลูกสาว หลานสาวอันเกิดจากลูกชายของเจ้ามรดก
10.ชาย พี่น้องชายร่วม บิดามารดาของเจ้ามรดก
11.ลูกชายของพี่น้องชายร่วมบิดามารดา ถูกกันสิทธิ์โดยบิดา ปู่ ลูกชาย หลานชายอันเกิดจากลูกชาย พี่น้องชายร่วมบิดามารดา พี่น้องชายร่วมบิดา พี่น้องสาวร่วมบิดามารดาเมื่อได้รับส่วนเหลือ
12.ลูกชายของพี่น้องชายร่วมแต่บิดา ถูกกันสิทธิ์โดยบิดา ปู่ ลูกชาย พี่น้องชาย ร่วมบิดามารด พี่น้องชายร่วมแต่บิดา พี่น้องหญิงร่วมบิดามารดาเมื่อได้รับส่วนที่เหลือ พี่น้องหญิงร่วม แต่บิดากับเจ้ามรดกเมื่อได้รับส่วนที่เหลือ (อะซอบะฮ์)
13.ลุงหรืออาร่วมบิดามารดาของเจ้ามรดก ถูกกันสิทธิ์โดยบิดา ปู่ ลูกชาย หลานชายอันเกิดจากลูกชาย พี่น้องชายร่วมบิดามารดา ลูกชายของพี่น้องชายร่วมบิดาและมารดา
14.ลุงหรืออาร่วมแต่บิดากับบิดาของเจ้ามรดก ถูกกันสิทธิ์โดยบิดา ปู่ ลูกชาย หลานชายอันเกิดจากลูกชาย พี่น้องชายร่วมบิดามารดา พี่น้องชายร่วมแต่บิดา พี่น้องหญิงร่วมบิดา มารดาเมื่อได้รับส่วนที่เหลือ พี่น้องหญิงร่วมแต่บิดาเมื่อได้รับส่วนที่เหลือ ลูกชายของพี่น้องชายร่วม บิดามารดา ลูกชายของพี่น้องชายร่วมแต่บิดา ลุงหรืออาร่วมบิดามารดากับบิดาของเจ้ามรดก
15.ลูกชายหรือลุงของอาร่วมบิดามารดากับบิดาของเจ้ามรดก ถูกกันสิทธิ์โดย บิดา ปู่ ลูกชาย หลานชาย พี่น้องชายร่วมบิดามารดา พี่น้องชายร่วมแต่บิดา พี่น้องหญิงร่วมบิดา มารดาเมื่อได้รับส่วนเหลือ พี่น้องหญิงร่วมแต่บิดาเมื่อได้รับส่วนที่เหลือลูกชายของพี่น้องชายร่วมบิดา มารดา ลูกชายของพี่น้องชายร่วมบิดากับเจ้ามรด
16.ลูกชายของลุงหรืออาร่วมบิดากับบิดาของเจ้ามรดก ถูกกันสิทธิ์โดยบุคคลใน ข้อที่กล่าวก่อนหน้านี้ และลูกชายของพี่น้องชายของเจ้ามรดกที่ร่วมบิดามารดากับเจ้ามรดก
***หมายเหตุถ้าหากพี่น้องหญิงร่วมบิดามารดากับเจ้ามรดกหรือพี่น้องหญิงร่วมบิดากับเจ้ามรดก ได้รับส่วนที่เหลือร่วมกับผู้อื่นแล้ว ก็สามารถกันสิทธิ์ของผู้อื่นได้ดังเช่นกรณีของพี่น้องชาย